วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

งานภาษาไทย เรื่องย่อ หัวใจชายหนุ่ม
หัวใจชายหนุ่ม : จดหมายถึงนายประเสริฐสุวัฒน์ ฉบับที่ 1 เรือ “โอยามะมะรู” เดินในทะเลแดง วันที่ 23 กันยายน 246- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก. เพื่อนคงนึกเคืองฉันอยู่แล้วละสิฉันยังไม่ได้เขียนจดหมายมาถึงเพื่อน ก่อนนี้.ที่จริงฉันอยากเขียนมานานแล้ว. แต่มันทำใจไม่ลงว่าจะเขียนว่ากระไร, จึงรีๆ รอๆ มาจนถึงเวลานี้. นี่ไม่ใช่เพราะไม่คิดถึงเพื่อนหามิได้, แต่ตรงกันข้าม ฉันคิดถึงเหลือเกินจนไม่รู้จะเขียนไปอย่างไรถูก, ตั้งแต่จากกันมาแล้วฉันคิดถึง เพื่อนทุกวัน, จริงๆ นะไม่ได้แกล้งพูดเลย, และฉันออกนึกริษยาเพื่อนพิลึกด้วย. นึกถึงตัวฉันเองที่มาตกอยู่ในที่อย่างไร, และพ่อประเสริฐตกอยู่ในที่อย่างไร จะไม่ให้ฉันริษยาอย่างไรได้ ? ส่วนฉันสิมาตกอยู่บนเรือซึ่งกำลังแล่นอยู่ในทะเล แดง, ร้อนแทบสิ้นสติ, และเดินห่างออกมาจากถิ่นที่เคยได้รับความสุขแลดูไปข้าง หน้าก็หวังได้แต่จะได้เห็นความคับแคบและอึดอัดใจ อย่าเข้าใจผิดว่าฉันไม่รัก กรุงสยามหรือชาติไทย. ชาติบ้านเมืองของฉันทำไมฉันจะไม่รู้จัก. แต่เป็นธรรม ดาคนเราต้องมีความรักหลายอย่าง, เช่น รักพ่อแม่หรือญาติพี่น้องก็ผิดกับการรัก ลูกรักเมียจริงไหม ? การรักเมืองไทยเปรียบเหมือนรักพ่อแม่, แต่การรักเมืองอังกฤษ เหมือนรักเมีย, แล้วก็เมื่อต้องจากเมืองอังกฤษมาเมืองไทยจะไม่ให้ฉันอาลัยได้หรือ ? คนเราที่ไม่เคยพ้นจากอกพ่อแม่ก็รู้สึกพอใจอยู่แล้วในการที่อยู่บ้านพ่อบ้านแม่, แต่พอได้เคยออกไปเห็นสิ่งงามๆ และพบคนอื่นๆ นอกบ้านแล้ว คงต้องรู้สึกว่า บ้านพ่อแม่เป็นที่คับแคบอึดอัดอยู่บ้าง. ทั้งการคุยกับคนแก่ครึอย่างพ่อแม่ก็คงไม่ ออกรสเท่าคุยกับหนุ่มๆ สาวๆ, จริงไหม ? ขอให้นึกดูเถิดเพื่อนเอ๋ย ต่อนี้ไปฉันจะไม่มีเวลาได้ดูละครอย่างที่เราได้เคย ไปด้วยกันบ่อยๆ ในลอนดอน, จะไม่ได้ไปเที่ยวกินข้าวตามเร็สตอรังต์ และดูผู้หญิง สวยๆ และที่ร้ายที่สุด จะไม่ได้เต้นรำ ! พ่อประเสริฐก็รู้อยู่แล้วว่าการเต้นรำเกือบจะ เป็นชีวิตของฉันทีเดียว เมื่อยังอยู่เมืองนอกด้วยกัน, เพื่อนเคยล้อว่าถ้าฉันไม่ได้เต้น รำนานๆ ถึงปวดท้อง ! นี่ต่อไปฉันจะมิต้องปวดท้องแย่หรือ ? แต่พูดกันจริงๆ นะ, อ้ายการเต้นรำนะมันก็ไม่สู้สำคัญนักดอก. มันสำคัญอีเรื่องที่จะไม่ได้กอดผู้หญิงนั่น แหละ. ถ้าไม่มีเต้นรำกันบ้าง เราจะวิ่งไปกอดเขาดื้อ ๆ ใครเขาจะยอม. อีกอย่างหนึ่ง ในเมืองไทยยังมีคนครึเหลืออยู่มากที่ชอบเก็บลูกสาวไม่ให้พบเห็นผู้ชาย. เพราะฉะ นั้นดูออกจะหาโอกาสได้ชื่นใจยากอยู่สักหน่อย. ฉันนึกๆ ไปแทบอยากพาเอาลิลี่เข้า ไปเสียด้วยแล้วเทียว, แต่นึกสงสารหล่อนจะต้องไปตกอยู่ในหมู่คน “อันศิวิไลซ์,” จะทนทานไม่ไหว ท่านบิดามารดาของฉันนะท่านทำโก้พอใช้จริงอยู่, แต่พื้นของท่าน ไม่ใช่ “ศิวิไลซ์” จริงจังดอกนะเพื่อน ฉันได้หวังอยู่ว่าในระหว่างเวลาเดินทางทะเล บางทีจะได้มีโอกาสพบปะสมาคมกับผู้หญิงอะไรบ้างสักคนสองคน พอลงเรือฉันก็ตั้งใจมองหาผู้ที่หน้าตาท่าทางจะพอแก้ขัดได้, และฉันนึกกระหยิ่มใจเมื่อได้เมื่อผู้หญิงคน 1 ซึ่งออกจะพอใช้. เขาชื่อมิสส์มิลเล่อร์, รูปร่างออกจะคล้าย ๆ ลิลี่, ซึ่งทำให้ฉันคิดถึงลิลี่พิลึก. แต่มีความเสียใจที่ต้องกล่าวว่า เขาค่อนข้างจะจองหองอยู่หน่อย, เพราะถึงแม้ฉันกับหล่อนนั่งกินข้าวอยู่โต๊ะเดียวกันก็จริง หล่อนไม่ใคร่จะยอมพูดกับฉันเลย. หรือจะเป็นเพราะหล่อนกลัวตาพ่อของหล่อนก็ไม่ทราบ, เพราะตาพ่อนั้นหน้าตาแกออกจะบ้าระหื่มอยู่สักหน่อย. แต่เพื่อนก็รู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นคนที่พยายามปานใด, เพราะฉะนั้น ในไม่ใช่มิสส์มิลเล่อร์ก็ตกลงต้องพูดกับฉัน. ฉันนึกออกยินดีว่าจะได้มีเพื่อนเดินทางที่อาจจะช่วยทำให้ใจค่อยหายเหี่ยวสักหน่อย, แต่ที่ไหนเล่าในไม่ช้าก็ได้ความว่าหล่อนจะไปเพียงอิยิปต์เท่านั้น ฉะนั้นพอถึงอิยิปต์ หล่อนก็ขึ้นจากเรือ. ฉันหวังใจอยู่ว่าจะได้เห็นหล่อนแสดงความเสียใจสักเล็กน้อยในการที่ต้องจากกัน, แต่เปล่าเลย ! หล่อนมัวแต่โบกผ้าเช็ดหน้าให้ใครคน 1 ที่มาคอยรับอยู่ที่ท่าเรือ, และซึ่งฉันเข้าใจว่าดูเหมือนจะเป็น “หวานใจ” ของหล่อน ! จวนถึงเวลาที่ต้องส่งจดหมายแล้ว, เพราะฉะนั้นต้องขอจบที. ถ้าพ่อประเสริฐมีโอกาสขอให้บอกลิลี่ ว่าฉันฝากความรักมาถึงหล่อนด้วย. จากเพื่อนที่รัก, ประพันธ์.

1 ความคิดเห็น:

aleph-zero กล่าวว่า...

อัพบ้างก็ดีนะเธอ



รวมทั้ง hi5 ด้วย



อิอิ